วันนี้เป็นเคสรีวิวของคุณสุบิน ที่มีแว่นสายตาคู่เดิมที่ตัดมายังไม่ถึงปี ใส่แล้วไม่สบายตาทั้งระยะไกลเวลาขับรถและระยะใกล้เวลาใช้งานคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ จึงได้เข้ามาปรึกษาหมอที่ มัทยาจักษุคลินิก & BE MY GLASSES เพื่อตัดแว่นคู่ใหม่ค่ะ
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลยค่ะ
Lifestyle
คุณสุบินอายุ 76 ปี กิจกรรมของคุณสุบิน หลักๆ คือ ขับรถ ,ใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ[PC] และ ใช้โทรศัพท์มือถือ ความต้องการของคุณลูกค้า คือ อยากได้แว่นที่สามารถขับรถ และ ใช้งานคอม โทรศัพท์มือถือ ที่ชัดและสบายตาในแว่นเดียว
ปัญหาสายตาที่ตรวจพบในปัจจุบัน
คุณสุบินเคยมีประวัติผ่าต้อกระจกข้างขวา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 และ คุณหมอได้นัดผ่าในข้างซ้ายในกลางปี 2022 ทำให้ระหว่างนี้จึงต้องการแว่นที่ใส่แล้วมองได้ชัดทั้งไกลและใกล้ทดแทนแว่นคู่เก่าที่เป็นรอยและมองไม่ชัด
ค่าสายตา
คุณสุบินมีแว่นสายตา 2 คู่ โดยค่าสายตาของคู่แรกคือ
ข้างขวา :+1.75-0.75×90ข้างซ้าย :+1.75-0.75×75
และแว่นคู่ที่ 2 ใช้เลนส์ของแบรนด์ Hoya รุ่น Dynamic Premium
ข้างขวา :-0.50ข้างซ้าย : +1.25-0.75×63ค่า Add :+2.00หลังจากซักประวัติเรียบร้อยแล้ว จึงได้ทำการตรวจสายตาอย่างละเอียด โดยใช้เครื่อง Auto Refractor และ Phoropter ได้ค่าสายตาอัพเดทดังต่อไปนี้ข้างขวา : -0.75-0.25×100 ข้างซ้าย :+0.50-0.75×85ค่า Add :+2.25
คำวินิจฉัยจากผู้เชี่ยวชาญ
หลังจากทำการตรวจอย่างละเอียด พบว่าปัญหาสายตาของคุณสุบิน คือ ค่าสายตาสองข้างต่างกัน เนื่องจากตาข้างขวาได้ผ่านการผ่าต้อกระจกมาค่าสายตาที่หลงเหลือจึงเป็นค่าสายตาสั้นที่ระยะมองไกล ส่วนตาข้างซ้ายยังไม่ได้ทำการผ่าจึงยังมีค่าสายตายาวที่ระยะมองไกล
ดังนั้นค่าสายตาข้างขวาจะเป็นค่าลบ ส่วนข้างซ้ายจะเป็นค่าบวก ทำให้ตาแต่ละข้างเมื่อมองผ่านตัวเลนส์แล้วจะทำให้เห็นภาพที่ต่างกันจึงทำให้ใส่แล้วไม่สบายตา ประกอบกับคุณลูกค้ามีสายตายาวตามวัยทั้งสองข้างที่เพิ่มขึ้นจากเดิม ทำให้การมองเห็นในระยะใกล้ไม่คมชัด
ทดลองเลนส์โปรเกรสซีฟยี่ห้อ Hoya
จากนั้นหมอได้ให้คุณสุบินทดสอบเลนส์แก้ไขปัญหาค่าสายตา ผลจากการทดสอบเลนส์ Progressive lens ในแต่ละยี่ห้อและ แต่ละรุ่นคุณสุบินชอบโครงสร้างเลนส์ Hoya ยี่ห้อเดิมที่คุณลูกค้าเคยใส่ ซึ่งเป็นแบรนด์เลนส์ชื่อดังจากญี่ปุ่น แต่รุ่นที่คุณสุบินทดสอบใส่แล้วรู้สึกชอบ คือ รุ่น Mystyle Profile ใส่แล้วไม่เวียนศีรษะ มีความสบายตา มุมมองการมองเห็นกว้าง นุ่มนวล และรุ่นที่ชอบรู้สึกชอบงลงมาคือ ID Lifestyle 3 มุมมองกว้าง ใส่สบายตาเช่นเดียวกันซึ่งสองรุ่นนี้มีความพิเศษกว่ารุ่นอื่น คือ สามารถเลือก Type ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลได้อย่างจำเพาะมากขึ้น และรองรับค่าสายตาทั้งสองข้างที่ต่างกันทำให้ใส่แล้วสบายตา
แต่เนื่องจากคุณสุบินต้องการตัดแว่นเพื่อใช้ระหว่างรอผ่าต้อกระจกในกลางปีหน้า หมอจึงแนะนำให้เลือกเป็นรุ่น ID Lifestyle 3 ซึ่งราคาย่อมเยาว์กว่า และมีคุณสมบัติที่ช่วยให้ปรับตัวง่าย มีความนุ่มนวลสบายตา เหมาะกับค่าสายตาสองข้างที่แตกต่างกันและสามารถเลือก Type ของตัวเลนส์ให้เหมาะสมกับกิจกรรมนั้นๆได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ เมื่อผ่าตัดต้อกระจกเรียบร้อยแล้ว ค่าสายตาจะเปลี่ยนไปจากเดิม แล้วค่อยมาตัดแว่นใหม่อีกครั้งดังนั้นเลนส์โปรเกรสซีฟที่แก้ปัญหาสายตาให้คุณสุบิน คือ Hoya ID Lifestyle 3 index 1.6 VG Type Urban ซึ่งเป็นโครงสร้างในการมองเห็นของตัวเลนส์แบบ Balance Zone เหมาะกับทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
สรุป
เลนส์โปรเกรสซีฟ มีหลายรุ่น หลายยี่ห้อ ที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อการใช้งานในรูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งในแต่ละยี่ห้อก็มีการออกแบบโครงสร้างของเลนส์ที่มีสไตล์แตกต่างกัน ตามแต่เอกลักษณ์ของยี่ห้อนั้นๆ
ดังนั้นหมอจึงอยากแนะนำให้ทุกท่านที่สนใจอยากที่จะตัดแว่นตาเลนส์โปรเกรสซีฟ เข้ามาทดลองของจริง ตามค่าสายตาจริง ก่อนตัดจะดีที่สุดค่ะ
มัทยาจักษุคลินิก & BE MY GLASSES ขอขอบพระคุณ คุณสุบิน ที่ให้ความไว้วางใจให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสายตาของคุณหากท่านใดสนใจอยากตัดแว่นใหม่หรืออยากทดลองใส่เลนส์โปรเกรสซีฟและเลนส์เฉพาะทางที่เป็นค่าสายตาของคุณลูกค้าเอง สามารถจองคิวเข้ามาตรวจวัดสายตาได้เลยนะคะ