มีคุณลูกค้าหลายท่านที่เข้ามาปรึกษาหมอว่า เวลาตนเองมองระยะใกล้ๆ เช่นอ่านหนังสือ หรือเล่นโทรศัพท์มือถือ ทำไมมองไม่คมชัดเหมือนแต่ก่อน หมอขออธิบายก่อนว่า เมื่อก้าวเข้าช่วงอายุ 40 ปี หรือบางท่านอาจจะก่อนอายุ 40 เล็กน้อยแล้วแต่บุคคล จะเริ่มมีอาการมองใกล้ไม่ชัด หรือเรียกว่า สายตายาวตามอายุ (Presbyopia) เมื่อไหร่ที่มีอาการหมอแนะนำว่าผู้อ่านควรไปหาจักษุแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพดวงตาและตัดแว่น Office Lens หรือ Progressive lens จะดีที่สุดค่ะ
วันนี้ MATTAYA CLINIC & BE MY GLASSES มีเคสรีวิวตัดแว่นเฉพาะทาง หรือเรียกว่า Office Lens ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ประสบปัญหามองใกล้ไม่ชัด ใช้ Progressive เลนส์อยู่แล้วแต่ไม่ค่อยตอบโจทย์ หรือ ไม่เคยใช้เลย แต่ลักษณะการทำงานใช้ระยะมองใกล้เป็นหลัก
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลยค่ะ
Lifestyle
คุณฐิดา อายุ 47 ปี ชีวิตประจำวันของคุณลูกค้าจะใช้แว่นสายตาในการใช้งานคอมพิวเตอร์ ใช้งานมือถือ และ IPAD แต่คุณลูกค้าสามารถมองระยะไกลพอได้แม้ไม่ได้คมชัดมาก และจะหยิบแว่น Progressive มาใช้มองไกลเวลาขับรถหรือเมื่อไหร่ที่จำเป็นต้องใช้สายตามองไกลเท่านั้น และคุณฐิดาเป็นคนไม่ชอบใส่แว่นอีกด้วย
ปัญหาสายตา (มองใกล้ไม่ชัด) ที่ตรวจพบในปัจจุบัน
คุณฐิดามีแว่น Progressive อยู่ 1 คู่และแว่นสายตาสำหรับอ่านหนังสืออีก 1 คู่
ซึ่งเลนส์ Progressive คุณลูกค้าไม่ค่อยได้ใช้งานมากนัก แว่นสายตาที่ใช้บ่อยจะเป็นแว่นอ่านหนังสือที่ตัดมาทีหลัง
ซึ่งปัจจุบันเริ่มไม่ชัดแล้ว จึงอยากเข้ามาตัดแว่นใหม่
คุณฐิดาจึงอยากได้แว่นสายตาที่ใส่แล้วสามารถมองใกล้ดีขึ้นและใช้งานได้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน จึงตัดสินใจเข้ามาปรึกษาหมอที่มัทยาคลินิกค่ะ
ค่าสายตา
ค่าสายตาเดิมของคุณฐิดา คือ
ข้างขวา : -0.25
ข้างซ้าย : -0.25-0.25×160
ค่า Add : 1.75
ค่าสายตาปัจจุบันของคุณฐิดา คือ
ข้างขวา : 0.00-0.25×74
ข้างซ้าย : 0.00-0.25×172
ค่า Add : 1.75
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
หลังจากหมอสรุปค่าสายตาของคุณฐิดา พบว่ามีค่าสายตายาวตามวัยเพิ่มขึ้น โดยดูจากผลรวมของค่าสายตาระยะไกลบวกกับระยะใกล้ จาก +1.50 เป็น +1.75 โดยวิธีการแก้ปัญหาของคุณฐิดา มีอยู่ 2 วิธีค่ะ
วิธีที่ 1 : ตัดแว่นโปรเกรสซีฟ (Progressive Lens)
แว่นโปรเกรสซีฟเป็นแว่นสายตาที่สามารถมองได้ทั้งระยะไกล กลาง และใกล้ พูดง่ายๆว่า สามารถมองได้คมชัด ทุกระยะการใช้งาน โดยเป็นเลนส์ที่ไร้รอยต่อใส่แล้วสวยงาม เหมาะกับลูกค้าที่อยากใส่แว่นสายตาแล้วคมชัดทุกระยะ จบครบที่แว่นเดียวค่ะ
แต่อย่างไรก็ตาม เลนส์ Progressive Lens ก็ยังคงมีข้อจำกัด คือ ด้านข้างจะมีภาพบิดเบือนหรือภาพล้มบ้างเล็กน้อย ลักษณะของโครงสร้างจะเหมือนกับทรงนาฬิกาทราย เมื่อมองเหลือบตาไปทางด้านข้างซ้ายและขวา จะเห็นภาพไม่คมชัดเท่ากับตรงกลาง ดังนั้นวิธีการใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟ เมื่อต้องมองภาพด้านข้างจะต้องหันศรีษะมอง แทนการเหลือบมองด้านข้างตามปกติค่ะ
ดังนั้นในการใช้งานระยะใกล้หากมีการใช้งานหลายอุปกรณ์พร้อมกัน ไม่อยากหันหน้าไปมาบ่อยๆ และจากการที่พื้นที่สำหรับมองใกล้อยู่โซนด้านล่างของเลนส์ ทำให้การใช้งานระยะใกล้ในบางอุปกรณ์จำเป็นต้องเชิดคางขึ้นในการมอง ซึ่งไม่สามารถทำนานๆได้
*สรุปได้ว่าเลนส์ Progressive จึงไม่ใช้เลนส์ที่จะตอบโจทย์การใช้งานที่ต้องใช้มองจอคอมพิวเตอร์และใช้ทำงานของคุณฐิดาได้
วิธีที่ 2 : ตัดแว่นอ่านหนังสือ หรือแว่น Office lens
แว่นอ่านหนังสือเป็นแว่นสายตาที่ใส่เฉพาะตอนนั่งทำงานระยะใกล้ๆ โดยเป็นแว่นสายตาที่ Fix ระยะว่าอยากมองใกล้ ระยะประมาณไหนโดยเฉพาะ เช่นหากปกติใช้งานมือถือ ที่ 40 เซนติเมตร ใช้ Ipad ที่ 50 เซนติเมตร ใช้คอมพิวเตอร์ Laptop ที่ 60 เซนติเมตร หากคุณลูกค้า ต้องการใช้ทุกระยะร่วมกัน และอยากให้ทุกระยะชัดเท่ากัน จะต้องขยับตัวเข้าไปหรือออกมาให้เท่ากับระยะสายตาที่ทำไว้บนแว่น
ส่วนแว่นระยะกลางใกล้ หรือเรียกอีกอย่างว่า แว่น Office lens สามารถมองได้หลายระยะ ตั้งแต่ใกล้ไปจนถึงระยะ 1 เมตร หรือ 1 ช่วงแขนกว่า แต่ไม่เกิน 2-4 เมตร
ด้วยแว่นทั้งสองแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นแว่นสายตาอ่านหนังสือ หรือ แว่นออฟฟิศเลนส์ จะใช้สำหรับเวลานั่งทำงานอยู่ภายใน Office
โดยมีข้อจำกัดว่า ถ้าลุกขึ้นเดิน ต้องถอดแว่น เนื่องจากแว่นไม่สามารถมองได้ระยะไกลได้มากเกินกว่า 4 เมตรค่ะ
*ซึ่งแว่นออฟฟิศเลนส์นี้เป็นแว่นที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของคุณฐิดาได้มากกว่า
การทดลองเลนส์ Office lens
เนื่องจาก คุณฐิดา ตัดสินใจเลือกใช้ Office lens หมอจึงได้ทำการทดลองออฟฟิศเลนส์โดยการจำลองพื้นที่ทำงาน และไลฟ์สไตล์ของคุณฐิดา เพื่อที่คุณลูกค้าจะได้แว่นที่สวมใส่สบายตา ปรับตัวง่ายกับการใช้งานค่ะ และเพื่อจะได้ทราบอย่างชัดเจนว่าขอบเขตและมุมมองการใช้งานที่เสมือนจริงให้มากที่สุด
ด้วยไลฟ์สไตล์และกิจกรรมในการใช้งานของคุณฐิดา เลนส์ที่จะตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาได้ดีที่สุด ได้แก่ เลนส์Office ที่สามารถใช้ในช่วงเวลาทำงานไม่สามารถมองไปไกลมากได้ แต่สามารถให้มุมมองระยะใกล้ที่กว้างกว่า เนื่องด้วยคุณฐิดาทำงานสายออกแบบ จึงมีความกังวลในส่วนของสีที่ผิดเพี้ยน ดังนั้นคุณลูกค้าจึงพิจารณาไม่เพิ่มเลนส์ตัดแสงสีฟ้า
กรอบแว่น
กรอบแว่นที่คุณลูกค้าชื่นชอบคือ กรอบแว่นตายี่ห้อ Stephane Christian แบรนด์ดังจากประเทศเกาหลี มีดีไซน์สวยงาม และออกแบบมาให้เหมาะกับคนเอเชียที่มีโครงหน้าเล็ก ทันสมัย และ ดูวัยรุ่นเล็กน้อย และแบรนด์นี้มีการออกแบบร่วมกับทางฝรั่งเศษ
จึงมีการเน้นเส้นสายของโลหะ และใช้เนื้อวัสดุ Titanium ที่มีความเบา แข็งแรง และทนทาน ทำให้ผู้ใช้นอกจากจะดูทันสมัยเมื่อใส่แว่นสายตาแล้ว ยังมีน้ำหนักเบา สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างดีค่ะ
สรุป
คนแต่ละคนมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน และเลนส์แต่ละชนิด ก็ทำหน้าที่ตอบโจทย์การทำงานที่แตกต่างกัน ดังนั้นหมอและทีมงานอยากมีส่วนช่วยในการเลือกเลนส์ที่ดีที่สุด และเหมาะสมกับชีวิตประจำวันมากที่สุดให้กับลูกค้าทุกท่านคะ
คุณฐิดาก็เป็นหนึ่งในคนที่มีงานที่เฉพาะด้าน ดังนั้นจึงต้องมีการเลือกเลนส์ที่เหมาะสมและตอบโจทย์ ซึ่ง Office lens เหมาะกับการใช้งานของคุณลูกค้ามากที่สุด แต่อย่างไรก็ตามเลนส์ทุกเลนส์มีจุดดีและจุดด้อยของตัวมันเอง ดังนั้นหมอแนะนำให้เข้ามาทดลองและปรึกษาเพื่อหาแว่นสายตาที่เหมาะกับคุณลูกค้ามากที่สุดร่วมกันนะคะ
MATTAYA CLINIC & BE MY GLASSES ขอขอบคุณ คุณฐิดา ที่ไว้วางใจให้ทางเราได้เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสายตาของคุณลูกค้าค่ะ