เลนส์แว่นตา มีหลากหลายชนิดที่ผู้ใช้สามารถเลือกสรรค์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยนอกเหนือจากเลือกกรอบแว่นแล้ว ผู้ใส่ยังสามารถเลือกชนิดของเลนส์แว่นตาให้เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
วันนี้หมอจะพาผู้อ่านทุกท่านดูว่า เลนส์แว่นตาแต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร แล้วมีวิธีการเลือกใช้อย่างไรกันบ้างค่ะ
เลือกอ่านเรื่องเลนส์แว่นตาตามหัวข้อที่สนใจได้เลยค่ะ
- เลนส์แว่นตา แบ่งตามการใช้งาน หรือ ตามสารเคลือบผิวเลนส์แว่นตา (Coating lens)
- ประเภทที่ 1 : เลนส์มัลติโค๊ต ( MultiCoated Lens )
- ประเภทที่ 2 : เลนส์บลูบล็อค (Blue Block Lens)
- ประเภทที่ 3 : เลนส์มัลติโค๊ตเปลี่ยนสี หรือ เลนส์ออโต้ (Auto Lens)
- ประเภทที่ 4 : เลนส์ขับรถกลางคืน (Driving Lenses)
- ประเภทที่ 5 : เลนส์กันแดด (Tinted Lenses)
- ราคาเลนส์แว่นตาแต่ละประเภท
- บทสรุป
เลนส์แว่นตา แบ่งตามการใช้งาน หรือ สารเคลือบผิวเลนส์แว่นตา (Coating lens)
เลนส์แว่นตามีโค้ทเคลือบเลนส์แว่นตาโดยทั่วๆไปจะอยู่มีประมาณ 5 ประเภท ได้แก่
ประเภทที่ 1 : เลนส์มัลติโค๊ต ( MultiCoated Lens )
เลนส์แว่นตาส่วนใหญ่ เกือบ 90% เป็นเลนส์มัลติโค๊ต ซึ่งเป็นโค๊ตเริ่มต้นของแว่นสายตาทั่วๆไป
ข้อดีของเลนส์มัลติโค้ต
- สามารถยืดอายุการใช้งานของเลนส์แว่นตาได้ โดยป้องกันรอยขีดขวน แล้วทำให้ให้ผิวของเลนส์มีช่องว่างที่น้อยลง หรือผิวเรียบมากขึ้น ทำให้เลนส์ป้องกันการเกาะของน้ำ ฝุ่น รอยนิ้วมือหรือสิ่งสกปรกได้มากขึ้น
- มีการใช้ เทคโนโลยี Anti-Static ให้มีคุณสมบัติฝุ่นจับน้อยลง ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
- ตัดแสงสะท้อนที่ผิวเลนส์ทั้งด้านในและด้านนอก ทำให้เลนส์แว่นตามีความใสมากขึ้น สามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นมากกว่าเลนส์ธรรมดาที่ไม่เคลือบโค้ต
- สามารถป้องกันแสง UV ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคตาต่างๆ ได้ เช่น ต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก โดยสารเคลือบโค้ตบนเลนส์แว่นเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดเพื่อปกป้องดวงตาจากแสง UV โดยเฉพาะลูกค้าที่มีลักษณะงานหรือกิจกรรมที่ต้องออกไปอยู่กลางแจ้งบ่อย ๆ ค่ะ
ประเภทที่ 2 : เลนส์บลูบล็อค (Blue Block Lens)
เลนส์บลูบล็อค เป็นเลนส์แว่นตาที่ทำหน้าที่ตัดแสงสีฟ้าหรือแสงสีน้ำเงิน ที่ออกมาจากอุปกรณ์ดิจิตอลต่างๆ เช่น มือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือหลอดไฟ LED ตามบ้านเรือน แสงสีฟ้าจะส่งผลในการทำลายจอประสาทตา เมื่อใช้งานดวงตาหน้าอุปกรณ์ดิจิตอลสะสมเป็นระยะเวลานานๆ อีกทั้งยังมีงานวิจัยทดลองว่าเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม
โดยเลนส์บลูบล็อค หรือ แว่นกรองแสงสีฟ้า สามารถทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบายตาขึ้นเมื่อต้องจ้องมองจอเป็นระยะเวลานานๆ แถมยังช่วยลดอาการตาแห้งได้ส่วนหนึ่ง เนื่องจากการที่เราสวมใส่แว่นแล้วสบายตา จะช่วยให้การกระพริบตาของเราเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ประเภทที่ 3 : เลนส์มัลติโค๊ตเปลี่ยนสี หรือ เลนส์ออโต้ (Auto Lens)
เลนส์เปลี่ยนสี เป็นเลนส์ที่เปลี่ยนสีตามสภาวะแสงที่ไวต่อแสง UV เลนส์มัลติโค๊ตเปลี่ยนสี หรือ เลนส์ออโต้จะปรับความเข้มของสี ตามความเข้มของ UV ที่เราเจอ โดยเลนส์ชนิดนี้สามารถป้องกันได้ทั้งแสง UV และแสงสีน้ำเงิน อีกทั้งยังสามารถลดความจ้าของแสง เปรียบเสมือนเป็นแว่นกันแดดให้กันผู้ที่สวมใส่
เลนส์มัลติโค๊ตเปลี่ยนสี มีให้เลือกอยู่ 2 แบบ
- แบบที่ 1 เลนส์ตัวนี้เมื่อเวลาอยู่ในที่ร่มจะเป็นเลนส์ใสๆ เมื่อเวลาออกกลางแจ้ง เลนส์จะปรับความเข้มของสีให้เลนส์เปลี่ยนสีเข้มขึ้น ตามความเข้มของ UV ที่เราเจอ
- แบบที่ 2 ในที่ร่มเลนส์จะติดสีอยู่ประมาณ 25-50% (ขึ้นอยู่กับแบรนด์ของเลนส์ที่เลือกใช้) เมื่อเวลาออกกลางแจ้งเลนส์จะยิ่งเข้มขึ้นไปอีกตามความเข้มของ UV ที่เราเจอ
เพิ่มเติม : ถ้าหากผู้ใส่มีความต้องการให้เลนส์แว่นสายตาสามารถปกป้องดวงตาจากแสง UV แสงสีน้ำเงิน และเป็นแว่นกันแดด ภายในแว่นคู่เดียวหมอขอแนะนำเลนส์มัลติโค๊ตเปลี่ยนสี จะตอบโจทย์มากที่สุดค่ะ
ประเภทที่ 4 : เลนส์ขับรถกลางคืน (Driving Lenses)
โค้ตเลนส์แว่นตาชนิดนี้จะช่วยให้ ลดความฟุ้งกระจายของแสงต่างๆตามท้องถนน ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้ารถฝั่งตรงข้าม ไฟท้ายรถ ไฟถนน และไฟอื่นๆ อีกทั้งยังเพิ่มความคมชัดของภาพ โดยจะคำนวณขนาดของรูม่านตาส่วนที่รับแสง เพื่อให้ทัศนวิสัยในการมองขณะขับขี่รถยนต์เพิ่มขึ้น และขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ
เลนส์ขับรถกลางคืน เหมาะกับลูกค้าที่พบปัญหาขณะขับขี่รถแล้วไม่มั่นใจในสภาวะแสงน้อย เช่น ช่วงพระอาทิตย์ตก ช่วงเวลาฝนตก หรือช่วงเวลากลางคืน
ประเภทที่ 5 : เลนส์กันแดด (Tinted Lenses)
เลนส์แว่นตาสามารถทำการย้อมสีเข้าไปในเลนส์ เพื่อเพิ่มฟังก์ชั่นเลนส์แว่นสายตาให้สามารถกันแดดและกันแสง UV ได้ กลายเป็นแว่นสายตากันแดด
โดยเป็นการย้อมสีลงไปในเลนส์ เลนส์กันแดดจะลดความจ้าของแสงเมื่อเราออกกลางแจ้ง ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบายตา ซึ่งสามารถเลือกสีในการย้อมเลนส์ได้หลากหลาย อาทิเช่น
สีน้ำตาล เหมาะกับลูกค้าที่อยากได้แว่นตาที่เมื่อเวลาออกกลางแจ้ง รู้สึกอยากเพิ่มความสว่างของภาพเพิ่มขึ้น
สีเทาดำ เหมาะกับลูกค้าที่ต้องการความสบายตา รู้สึกเย็นตาเมื่อต้องมองออกไปกลางแจ้ง
สีเหลือง เพิ่มความชัดของภาพ โดยเฉพาะตอนกลางคืนหรือในที่ที่มีแสงน้อย เลนส์สีเหลืองจะช่วยให้มองภาพรู้สึกชัดมากขึ้น แต่จะไม่ค่อยเหมาะถ้าหากนำไปใส่ขับรถในเวลากลางวัน
สีเขียว เหมาะกับการสวมใส่เลนส์กีฬา ให้ความชัดของสีสนามหญ้าชัดเจนมากขึ้น สบายตาขึ้น
ระดับความเข้มของสีของเลนส์กันแดด
สามารถเลือกความเข้มของสีที่อยากย้อมลงไปในเลนส์ว่ามีมากน้อยแค่ไหน โดยจะมีเปอร์เซ็นความเข้มของสีให้เลือก ตั้งแต่ความเข้ม 25%, 50%, 75%, 80%, 90% (ขึ้นอยู่กับแบรนด์เลนส์แว่นตาที่เลือกใช้)
โดยระดับความเข้มจะเหมาะสมกับผู้สวมใส่ดังนี้
ระดับความเข้ม 80%
เหมาะกับผู้ใส่ที่ต้องการให้นี้เป็นแว่นกันแดดปกป้องแสงจ้าได้เต็มที่
ระดับความเข้ม 50%
เหมาะกับผู้ใส่ที่อยากได้ความเข้มที่ไม่เข้มจนเกินไป และสามารถลดแสงจ้าได้บ้าง
ระดับความเข้ม 25%
เหมาะกับลูกค้าที่อยากให้เลนส์แว่นตามีสีติดอยู่บ้างเพื่อความสวยงามของแว่นตา ไม่เข้มจนเกินไป เพิ่มความเป็นแฟชั่นลงไปในแว่น
นอกจากนี้ยังสามารถเลือกได้อีกว่าสีที่ย้อมเพิ่มเข้าไป อยากย้อมสีแบบเต็มแผ่นหรือย้อมสีเพียงครึ่งแผ่น (ย้อมแบบไล่สี) ได้อีกด้วยค่ะ
และสามารถย้อมสีปรอทเพิ่มเติม เพื่อตัดแสงให้ได้มากที่สุด โดยสีปรอทมีให้เลือกมากมายหลากหลายสี (ขึ้นอยู่กับแบรนด์เลนส์แว่นที่เลือกใช้)
สรุป
จะเห็นได้ว่าเลนส์แว่นตามีให้เลือกหลายประเภทตามการใช้งานในชีวิตประจำวัน ได้แก่ เลนส์มัลติโค๊ต สำหรับการใช้งานทั่วไป , เลนส์บลูบล็อค สำหรับผู้ที่ทำงานหน้าจอคอม , เลนส์มัลติโค๊ตเปลี่ยนสี สำหรับผู้ที่ทำกิจกรรมในร่มและกลางแจ้ง , เลนส์กันแดด สำหรับผู้ที่เน้นทำงานกลางแจ้ง และเลนส์ขับรถกลางคืน สำหรับผู้ที่มีปัญหามองไม่ชัดเวลาขับรถตอนแสงน้อย
หากคุณลูกค้าสนใจหรือมีข้อมูลที่สงสัยหรือบางท่านอยากทดลองเลนส์แว่นตาชนิดต่างๆ ตามค่าสายตาของตนเอง สามารถเข้ามาปรึกษาหมอที่ MATTAYA VISION CENTER ได้ทุกสาขานะคะ