ในปัจจุบัน วิถีชีวิตของมนุษย์ได้เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ เล่นมือถือ และใช้สายตาดูหน้าจอดิจิตอลต่างๆตลอดทั้งวัน ประกอบกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป อากาศร้อนขึ้น รังสีต่างๆจากแสงแดดแรงขึ้น ฝุ่นและมลภาวะเยอะมากยิ่งขึ้น ทำให้คนในปัจจุบันมีอาการตาแห้งเยอะมากยิ่งขึ้น โดยจากสถิติมีคนมากกว่า 378 ล้านคนที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยการเป็นโรคตาแห้ง
อาการตาแห้งคืออะไร มีอาการเป็นอย่างไร สามารถรักษาด้วยวิธีไหนได้บ้าง หมอรวบรวมข้อมูลมาให้แล้วค่ะ
เลือกอ่านตามหัวข้อที่สนใจได้เลยค่ะ
ตาแห้งคืออะไร
ตาแห้ง (Dry eye disease) คือ การที่น้ำตาหล่อเลี้ยงดวงตาไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการแสบตา น้ำตาไหล ตาพร่ามัว สู้แสงไม่ได้ เกิดอาการคันตา ตาแดง และ ปวดตา โดยมากมักจะเป็นหนักในกิจกรรมที่ต้องใช้สายตามากๆ เช่น เวลาใช้คอมพิวเตอร์ ใช้งานโทรศัพท์มือถือ หรือขับรถเวลากลางคืน
ตาแห้งมีสาเหตุเกิดจากอะไร
อาการตาแห้งนั้นมีหลายสาเหตุในการเกิด ดังนี้
- การสร้างน้ำตาลดลงเมื่ออายุมากขึ้น
- ใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานาน
- ภูมิแพ้ขึ้นตา
- ต้นเหตุจากยาบางชนิด
- ดื่มน้ำน้อย
- อยู่ในบริเวณที่มีอากาศแห้งและลมแรงนานๆ
- กระพริบตาน้อยลง เนื่องจากเพ่งสายตาเยอะ เช่น เวลาเล่นมือถือ
- นอนน้อย
- ทำความสะอาดเครื่องสำอางค์ไม่สะอาด
- ทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่
https://www.youtube.com/watch?v=d6u3RA-LIAk&t=132s
นอกจากเหตุผลด้านบนยังมีอีก 1 สาเหตุที่เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดตาแห้ง คือ
ต่อมไขมันอุดตันที่เปลือกตา
ที่บริเวณเปลือกตาจะมีต่อมไขมันเรียงตัวอยู่ ทั้งเปลือกตาบนและล่าง ซึ่งต่อมไขมันนี้จะมีหน้าที่ผลิตน้ำตา เรียกว่า น้ำตาคงตัว (Stable) ที่ไม่ระเหยง่ายและทำให้ดวงตาชุ่มชื้นตลอดเวลา
ซึ่งหากต่อมไขมันนี้เกิดอุดตันเรื้อรังหรือเสื่อมสภาพ นอกจากจะทำให้น้ำตาคงตัวผลิตออกมาหล่อเลี้ยงดวงตาระเหยง่ายแล้ว ยังทำให้เกิดอาการติดเชื้อกลายเป็นเปลือกตาอักเสบ (ตากุ้งยิง) ในที่สุด
อาการของตาแห้ง
ตาแห้ง จะมีอาการหลายรูปแบบ ดังนี้
- แสบตา
- ตามัว เห็นภาพเบลอเป็นพักๆ
- แพ้แสง ตาสู้แสงไม่ได้
- คันตา ขยี้ตาบ่อย
- ตาแดงเรื่อๆ เป็นๆหายๆ
- น้ำตาไหล
- เคืองตา เหมือนมีเม็ดทรายอยู่ในตา
- ปวดตา เมื่อยล้าดวงตา ปวดกระบอกตา อาจปวดศีรษะร่วมด้วย
- มีขี้ตาเยอะตอนตื่นเช้า ลืมตาไม่ค่อยขึ้น
วิธีการดูแลเรื่องตาแห้ง
- ใช้น้ำตาเทียมหยอดตา เพื่อหล่อเลี้ยงดวงตาแทนน้ำตา
- กะพริบตาบ่อยๆ
- ดื่มน้ำให้มากๆ
- ควรพักสายตาทุกๆ 30 นาที ด้วยการหลับตา 1-2 นาที
- ควรสวมแว่นกันแดด หรือกันลมปะทะเข้าดวงตาโดยตรง
- ประคบตาด้วยน้ำอุ่น นวดและทำความสะอาดเปลือกตา
ดูแลเรื่องตาแห้งด้วย Eye Spa
อาการตาแห้งนั้น ทุกท่านสามารถรักษาบรรเทาอาการได้ด้วยตัวเองก็จริง แต่หากท่านใดเกิดอาการตาแห้งบ่อยครั้ง และอยากรักษาที่ต้นเหตุการเกิดอาการตาแห้ง พวกเรา มัทยาจักษุคลินิก ได้คิดค้นวิธีการรักษาตาแห้งให้กับคุณลูกค้าทุกท่าน โดยมีชื่อว่า Eye Spa
Eye Spa คือ การทำความสะอาด และขจัดการอุดตันของต่อมไขมันที่บริเวณเปลือกตา ซึ่งเป็นอาหารของไรขน (Demodex) เชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคเปลือกตาอักเสบตามมา
ขั้นตอนการรักษาด้วย Eye Spa
ที่ มัทยาจักษุคลินิก เรามีขั้นตอนการทำ EYE SPA ที่ไม่เหมือนใคร เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การรักษาที่ดีกว่า โดยคนไข้ไม่รู้สึกเจ็บ โดยมีขั้นตอนดังนี้
-
ประคบอุ่นเปิดรูขุมขนของต่อมไขมัน และละลายไขมันที่อุดตัน
-
นวดเปลือกตากดระบายไขมันที่อุดตันออกมาอย่างนุ่มนวล
-
ทำความสะอาดเปลือกตาใช้เจลชนิดพิเศษที่สามารถขจัดคราบไขมันออกได้อย่างหมดจด และไม่รู้สึกแสบระคายเคืองตา
-
นวดกดจุดรอบดวงตาเป็นขั้นตอนพิเศษเฉพาะที่มัทยาคลินิก เพื่อกระตุ้นการผลิตน้ำตาของต่อมน้ำตา และช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่อ่อนล้ารอบดวงตา
รีวิว ความประทับใจหลังทำ EYE SPA รักษาตาแห้ง
https://www.youtube.com/watch?v=n_EvUvrFU8I
คุณพฤกษ์ มีปัญหาตาแห้งเรื้อรังหลังจากทำเลสิกค่ะ หลังทำ EYE SPA รู้สึกว่าผ่อนคลายมากขึ้น อาการตาแห้งดีขึ้น ใช้น้ำตาเทียมน้อยลง มีความมั่นใจมากขึ้นค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=gdtTiFUj5WU
คุณชนิชา มีปัญหาตาแห้งมาก น้ำตาไหลตลอดเวลา ขับรถนานๆจะมองไม่ชัด เป็นตากุ้งยิงทุกเดือน หลังทำ EYE SPA อาการดีขึ้นมาก อาการตาอักเสบและตาแห้งลดลง
สรุป
ตาแห้ง สร้างความรำคาญใจในการใช้ชีวิตประจำ บางรายอาจทำงานไม่ได้เพราะแสบตาเป็นอย่างมากในบางวัน และอาจลุกลามเป็นต้นตอของปัญหาเรื่องดวงตาอื่นๆในอนาคตหากปล่อยปละละเลย
ดังนั้นหมอขอแนะนำให้ผู้อ่านทุกท่านทำตามคำแนะนำที่หมอได้ให้ไว้ด้านบนเมื่อเกิดอาการตาแห้ง หรือสามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ มัทยาจักษุคลินิก ได้เลยค่ะ