ในยุคดิจิทัลปี 2025 ที่การใช้หน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะหลังวิกฤติ COVID-19 ที่ทำให้รูปแบบการใช้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไป ประชาชนคุ้นชินกับการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น จากสถิติของสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NSO) พบว่าประชาชนไทยใช้เวลากับอุปกรณ์ดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะ Gen Z ที่ใช้เน็ตสูงสุด และเด็กๆ ที่ติดหน้าจอมือถือเฉลี่ยสัปดาห์ละ 35 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่าสถิติโลก สิ่งนี้ทำให้เกิดความกังวลเรื่องสุขภาพดวงตา โดยเฉพาะจาก “แสงสีฟ้า” ที่แผ่ออกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ซึ่งอาจนำไปสู่อาการปวดตา ตาล้า หรือปัญหาการนอนหลับ
แว่นกรองแสงสีฟ้า จึงกลายเป็นไอเท็มยอดนิยมที่หลายคนหันมาใช้เพื่อปกป้องดวงตา แต่คำถามที่พบบ่อยคือ แว่นกรองแสงสีฟ้า ช่วยได้จริงไหม?
บทความนี้ Mattaya Clinic จะตอบทุกข้อสงสัยอย่างละเอียด ด้วยข้อมูลจากงานวิจัยล่าสุดปี 2025 มุมมองทางการแพทย์ และเคล็ดลับการเลือกซื้อที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ เราจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ เพื่อสุขภาพตาที่ดีขึ้นในระยะยาว
เลือกอ่านตามหัวข้อ แว่นกรองแสงสีฟ้า ที่สนใจได้เลยค่ะ
แสงสีฟ้า (Blue light) คืออะไร?
แสงสีฟ้า (Blue Light) คือแสงที่มองเห็นได้ที่มีความยาวคลื่นสั้นที่สุดในสเปกตรัมแสงที่ตามนุษย์มองเห็น โดยมีความยาวคลื่นประมาณ 380-500 นาโนเมตร (nm) ซึ่งมีพลังงานสูงและสามารถทะลุทะลวงเข้าสู่จอประสาทตาได้ลึกกว่าแสงสีอื่นๆ แหล่งกำเนิดหลักของแสงสีฟ้าคือแสงแดดธรรมชาติ แต่ในชีวิตประจำวัน เรามักได้รับจากอุปกรณ์ดิจิทัล เช่น จอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ซึ่งแผ่แสงสีฟ้าออกมามากถึง 35-40% ของแสงทั้งหมด
จากงานวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แสงสีฟ้าจากหน้าจออาจรบกวนการผลิตเมลาโทนิน (ฮอร์โมนการนอนหลับ) และทำให้เกิดอาการตาล้า หากสัมผัสเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในห้องมืด นอกจากนี้ หลัง COVID-19 การใช้หน้าจอในไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดย ETDA รายงานว่า Gen Z ใช้เน็ตสูงสุดเป็นปีแรก ส่งผลให้ปัญหาสุขภาพตาเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
แม้แสงสีฟ้าจะมีประโยชน์ แต่การได้รับแสงสีฟ้าจากหน้าจอในปริมาณมากเกินไป โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพดวงตาและนาฬิกาชีวภาพของร่างกายได้
แว่นกรองแสงสีฟ้า ช่วยได้จริงไหม?
นี่คือคำถามที่พบบ่อยที่สุด และคำตอบคือ “ขึ้นอยู่กับบุคคลและวัตถุประสงค์การใช้งาน”
จากมุมมองทางการแพทย์และงานวิจัยในปัจจุบัน สรุปได้ดังนี้:
-
ด้านการลดอาการปวดตา ตาล้า (Digital Eye Strain) ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนและเพียงพอที่จะสรุปได้ว่าแว่นกรองแสงสีฟ้าสามารถลดอาการตาล้าจากการใช้คอมพิวเตอร์ได้โดยตรง เพราะอาการเหล่านี้ส่วนใหญ่มักเกิดจากการใช้สายตาอย่างหนัก การกระพริบตาน้อยลง และระยะการมองที่ไม่เหมาะสมมากกว่า
-
ด้านการนอนหลับ มีหลักฐานสนับสนุนค่อนข้างชัดเจน ว่าแสงสีฟ้าจากหน้าจอในตอนกลางคืนสามารถรบกวนการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยในการนอนหลับได้ การสวมแว่นกรองแสงสีฟ้าในช่วง 2-3 ชั่วโมงก่อนนอน อาจช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้น
หากเป้าหมายหลักของคุณคือ การนอนหลับที่ดีขึ้น แว่นกรองแสงสีฟ้าถือเป็นตัวช่วยที่มีประโยชน์ จากเคสจริงที่ Mattaya Clinic เราพบผู้ป่วยหลายรายที่ใช้แว่นกรองแสงสีฟ้าแล้วรายงานว่าอาการปวดตาลดลง 20-30% หลังใช้ 1 เดือน เช่น นักศึกษาที่เรียนออนไลน์หรือพนักงานออฟฟิศที่ทำงานรีโมท แต่ผลลัพธ์ขึ้นกับปัจจัยอื่น เช่น การพักสายตาแบบ 20-20-20 (ทุก 20 นาที มองไกล 20 ฟุต นาน 20 วินาที)
ใครบ้างที่ “ควร” พิจารณาใส่แว่นกรองแสงสีฟ้าเป็นพิเศษ?
แม้จะไม่ใช่ทุกคนที่จำเป็นต้องใส่ แต่กลุ่มคนเหล่านี้อาจได้รับประโยชน์จากการใช้แว่นกรองแสงสีฟ้ามากกว่าคนทั่วไป
-
พนักงานออฟฟิศ/โปรแกรมเมอร์: ผู้ที่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนานกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน
-
เกมเมอร์: ที่ใช้สายตาเพ่งหน้าจอที่มีการเคลื่อนไหวรวดเร็วและใช้สมาธิสูงเป็นเวลานาน
-
นักเรียน/นักศึกษา: ที่ต้องเรียนออนไลน์หรืออ่านหนังสือจากแท็บเล็ตเป็นประจำ
-
ผู้ที่ชอบเล่นมือถือก่อนนอน: เพื่อช่วยลดผลกระทบของแสงสีฟ้าต่อวงจรการนอนหลับ
นอกเหนือจากข้อพิจารณาข้างต้นแล้วการเลือก แว่นกรองแสง ให้ถูกกับการใช้งานยังสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ดวงตาของเราได้รับการถนุถนอมอย่างดี ทั้งยังส่งผลให้การใช้ชีวิตประจำวันที่มีความสุขอีกด้วย
วิธีเลือกแว่นกรองแสงสีฟ้า โดยจักษุแพทย์
การเลือกซื้อแว่นผิดประเภทอาจไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา แถมยังทำให้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ นี่คือเช็กลิสต์สำคัญที่คุณต้องรู้
1. ประเภทของเลนส์กรองแสง
-
เลนส์แบบเคลือบผิว (Coating): เป็นการเคลือบสารป้องกันแสงสีฟ้าไว้บนผิวเลนส์ จะสังเกตเห็นประกายสะท้อนสีฟ้า-ม่วงบนผิวเลนส์ เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้หน้าจอไม่นานมาก
-
เลนส์แบบผสมในเนื้อวัสดุ (Blue Cut Lens): วัสดุที่ใช้ทำเลนส์จะผสมสารดูดซับแสงสีฟ้าเข้าไปโดยตรง ทำให้เลนส์อาจมีสีอมเหลืองเล็กน้อย แต่มีประสิทธิภาพในการกรองแสงสูงกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานหน้าจอหนักๆ ตลอดทั้งวัน
2. ค่าการกรองแสงที่เหมาะสม
ไม่จำเป็นต้องเลือกเลนส์ที่กรองแสงได้ 100% เพราะจะทำให้สีเพี้ยนมากเกินไป ควรเลือกเลนส์ที่สามารถกรองแสงสีฟ้าในช่วงคลื่นที่เป็นอันตราย (ประมาณ 415-455 นาโนเมตร) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังคงให้สีสันที่ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด
3. ตรวจวัดสายตาอย่างแม่นยำก่อนเสมอ
นี่คือข้อที่สำคัญที่สุด! หลายคนมีปัญหา สายตาสั้น ยาว หรือเอียงซ่อนอยู่โดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการปวดตา การซื้อแว่นกรองแสงสำเร็จรูปมาใส่โดยไม่ตรวจวัดสายตาก่อน อาจทำให้ปัญหารุนแรงขึ้นได้ ก่อนการเลือกใช้งานแว่นเราควรตรวจวัดสายตากับ นักทัศนมาตร หรือ หมอสายตา อย่างละเอียด
คำแนะนำจากมัทยาคลินิก: ควรเข้ารับการตรวจวัดสายตาอย่างละเอียดกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้แว่นกรองแสงสีฟ้าที่มีค่าสายตาที่ถูกต้อง เหมาะสมกับคุณ และหากต้องการให้สามารถมองได้ชัดทุกระยะ ทั้ง ระยะใกล้ ระยะกลาง ระยะไกล แนะนำให้เลือกตัดโดยใช้เป็น เลนส์โปรเกรสซีฟ เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด
สรุป ข้อดี-ข้อเสียของ แว่นกรองแสงสีฟ้า
| ข้อดี | ข้อเสียและข้อควรระวัง |
| ✅ อาจช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับให้ดีขึ้น | ❌ ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าช่วยลดอาการปวดตาได้โดยตรง |
| ✅ ช่วยลดแสงจ้า จากหน้าจอ ทำให้รู้สึกสบายตาขึ้น | ❌ เลนส์บางชนิดอาจทำให้การมองเห็นสีเพี้ยนไปเล็กน้อย |
| ✅ สามารถทำร่วมกับเลนส์สายตาชนิดต่างๆ ได้ | ❌ แว่นสำเร็จรูปราคาถูกอาจไม่มีคุณภาพและไม่ได้ค่าสายตาที่ถูกต้อง |
| ✅ เป็นเกราะป้องกันดวงตาจากแสงที่อาจเป็นอันตรายในระยะยาว | ❌ ไม่สามารถป้องกันโรคตา เช่น จอประสาทตาเสื่อม ได้ |
แต่ในปัจจุบัน แว่นกรองแสงสีฟ้า หลายยี่ห้อก็พัฒนาสารเคลือบเลนส์กันแสงคอมให้มีสีที่ใสยิ่งขึ้นจนแทบไม่ติดสีเหลือง สามารถใช้งานได้ทุกอาชีพ นอกจากนี้เลนส์แว่นตาชนิดอื่น เช่น เลนส์เปลี่ยนสี หรือ เลนส์ออโต้ ทำเป็นแว่นสายตากันแดด ก็มีคุณสมบัติสามารถกรองแสงสีฟ้าได้ด้วย คุณผู้อ่านอาจพิจารณาเลือกใช้ตามความเหมาะสมได้เลยค่ะ
ทำไมการตัดแว่นกรองแสงสีฟ้าที่ “มัทยาคลินิก” ถึงแตกต่าง?
การมองเห็นคือเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องการความใส่ใจจากผู้เชี่ยวชาญ ที่มัทยาคลินิก เราไม่ได้แค่ “ขายแว่น” แต่เรามอบ “การดูแลสุขภาพดวงตาแบบครบวงจร”
-
ดูแลโดยจักษุแพทย์และทีมผู้เชี่ยวชาญ: คุณจะได้รับการตรวจสุขภาพตาและวัดค่าสายตาอย่างละเอียดโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณไม่มีโรคตาอื่นๆ ซ่อนอยู่
-
เทคโนโลยีการวัดที่แม่นยำ: เราใช้เครื่องมือที่ทันสมัยเพื่อให้ได้ค่าสายตาที่แม่นยำที่สุดสำหรับคุณโดยเฉพาะ
-
เลนส์คุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำ: เราคัดสรรเลนส์กรองแสงสีฟ้าคุณภาพสูง ที่ให้การปกป้องสูงสุดโดยมีการบิดเบือนของสีน้อยที่สุด
-
คำแนะนำเฉพาะบุคคล: เราให้คำปรึกษาเพื่อเลือกชนิดของเลนส์และกรอบแว่นที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และโครงหน้าของคุณมากที่สุด
คลิปแนะนำ แว่นกรองแสงสีฟ้า โดย พญ. มัทยา ขวัญอโนชา
คลิปคุณหมอมัทยา แนะนำเลนส์กรองแสงคอมพิวเตอร์ สำหรับผู้ที่ทำงานหน้าจอคอมทั้งวันอย่าง Graphic design ว่ามีวิธีเลือกเลนส์กรองแสงสีฟ้าอย่างไร ไม่ให้สีเพี้ยน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- แว่นกรองแสงสีฟ้าจำเป็นไหม?
จำเป็นสำหรับคนใช้หน้าจอนานๆ - แว่นกรองแสงสีฟ้าช่วยอะไรบ้าง?
ลดตาล้า ปรับการนอนหลับ ป้องกัน UV - ใส่แว่นกรองแสงสีฟ้าทั้งวันได้ไหม?
ได้ แต่ถอดพักบ้างเพื่อให้ตาปรับตัว - เด็กใส่ได้ไหม?
ได้ แต่เลือกขนาดเหมาะและปรึกษาแพทย์
สรุป
แว่นกรองแสงสีฟ้า ในปี 2025 เป็นเครื่องมือที่ดีในการปกป้องดวงตาจากแสงหน้าจอ สามารถช่วยลดอาการตาล้า และปรับการนอนหลับได้จริง หากเลือกยี่ห้อคุณภาพและใช้ควบคู่กับพฤติกรรมที่ดี แต่จำไว้ว่าไม่มีอะไรแทนที่การตรวจสุขภาพตาประจำปีได้ หากคุณมีอาการปวดตาหรือสงสัยเรื่องสายตา มาตรวจสายตาที่ Mattaya Vision Center วันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาจากจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และนักทัศนมาตร โทร 0994636365 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์เราเพื่อข้อมูลเพิ่มเติม!
ผู้เขียนบทความ
แพทย์หญิง มัทยา ขวัญอโนชา (หมอหลิน)
จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคตาและการมองเห็น ด้วยความเชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยา จักษุแพทย์ผู้ก่อตั้ง Mattaya Vision Center พร้อมวินิจฉัยและให้คำปรึกษาเฉพาะทางด้านเลนส์โปรเกรสซีฟ เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาสายตาซับซ้อนจากภาวะสายตายาวตามวัย
ประวัติการศึกษา
- แพทยศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 1): จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- วุฒิบัตรสาขาจักษุวิทยา: คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- วุฒิบัตรการผ่าตัดตกแต่งกล้ามเนื้อตาและตาสองชั้น: Korean College of Cosmetic Surgery (KCCS) ประเทศเกาหลีใต้
