อายุมากขึ้นสายตาจะกลับมาดีขึ้นจริงไหม?

สายตากลับ

อย่างที่หลายคนทราบกันว่า เมื่อเราอายุมากขึ้น ยิ่งเข้าใกล้ช่วงอายุ 40 ปี เราจะมีปัญหาการมองระยะใกล้ เช่น ระยะโทรศัพท์มือถือ หรือ ระยะคอมพิวเตอร์ กันเกือบทุกคน หลายคนที่สายตาสั้น ใส่แว่นมาตลอดตั้งแต่วัยเด็กหรือวัยรุ่น พออายุย่างเข้าเลข 4 แว่นคู่เดิมที่ใส่อยู่กลับมองระยะใกล้ๆไม่ชัดซะอย่างนั้น กลายเป็นว่าถอดแว่นตาแล้วมองภาพชัดเจนกว่าจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคนเชื่อว่า เมื่อเราอายุมากขึ้นสายตาจะกลับมาดีขึ้น

อาการสายตากลับเป็นเรื่องจริงไหม?  หมอจะอธิบายให้ฟังค่ะ

อายุมากขึ้น สายตากลับมาดีขึ้นจริงไหม ?

ก่อนอื่นหมอขออธิบายว่า เราทุกคนมีโอกาสที่สายตาจะกลับมาดีขึ้น โดยมีค่าสายตาลดน้อยลงกว่าเดิม เมื่อเราอายุ 40 ปีขึ้นไปค่ะ แต่หมอขอย้ำว่า

” อาการนี้จะเกิดขึ้นแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น “ เพราะอะไรไปดูค่ะ

สายตากลับ

สายตายาวตามวัย (Presbyopia) ต้นเหตุอาการสายตากลับ

ก่อนอื่นหมอจะแบ่งคนออกเป็นสองกลุ่มก่อนค่ะ

กลุ่มคนสายตาสั้น

กลุ่มแรกเป็นผู้ที่มีปัญหาค่าสายตาสั้นตั้งแต่วัยรุ่น เมื่ออายุย่างเข้าเลข 4 จะมีอาการที่เรียกว่า ค่าสายตายาวตามวัย (Presbyopia) เพิ่มเข้ามา ซึ่งค่าสายตายาวตามวัยนี้ ในช่วงแรกจะสร้างปัญหาให้กับคนกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก

เพราะนอกจากจะมองระยะไกลไม่ชัดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อมีอาการสายตายาวตามวัยเพิ่มเข้ามา ทำให้เวลามองระยะใกล้ๆ เช่น อ่านหนังสือ เล่นมือถือ จะไม่ชัดเจนเหมือนแต่ก่อน ทำให้หลายคนต้องตัดแว่นมาเพิ่มเพื่อมองระยะใกล้ๆ โดยเฉพาะ พูดให้เข้าใจง่าย คือ คนกลุ่มนี้มองใกล้มากก็เบลอ มองไกลไปก็ไม่ชัดค่ะ

แต่เมื่อเข้าช่วงอายุ 40 ปีมาสักพักหนึ่ง (อายุเท่าไหร่นั้นแล้วแต่บุคคล) ค่าสายตายาวตามวัยจะมีค่าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามอายุ จนมากพอที่จะสามารถหักล้างค่าสายตาสั้นที่เป็นอยู่เดิม จนทำให้คนกลุ่มนี้มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ค่าสายตาสั้นลดลง จนทำให้บางคนไม่จำเป็นต้องใส่แว่นตาก็สามารถมองเห็นได้ชัด

สายตากลับ

กลุ่มคนสายตายาว

กลุ่มที่สอง จะเป็นกลุ่มของผู้ที่มีปัญหาสายตายาวตั้งแต่อายุยังน้อย พอเริ่มอายุ 40 ปี มีปัญหาสายตายาวตามวัย (Presbyopia) เข้ามาเพิ่มเติม ก็จะทำให้มีค่าสายตายาวเพิ่มมากขึ้นกว่าก่อน

หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วคนกลุ่มนี้จะมีค่าสายตายาวจะทะลุ +1000 เลยหรือเปล่าคะ?
แล้วอย่างนี้คนที่สายตายาวอยู่แล้วก็ไม่สามารถที่สายตากลับมาดีได้เลยสิคะ ?

หมอขอบอกว่า คนสายตายาว ก็สามารถที่จะมีอาการสายตากลับได้เหมือนกันค่ะ

เพราะกลไกตามธรรมชาติของร่างกายจะมีอาการหนึ่งที่เรียกว่า โรคต้อกระจก (Cataract) มาหยุดและลดค่าสายตายาวที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามอายุของคนกลุ่มนี้ค่ะ

ซึ่งเมื่อถึงช่วงอายุหนึ่ง โรคต้อกระจกจะลดทอนค่าสายตายาวไปเรื่อยๆ จนทำให้ค่าสายตายาวลดลงค่ะ แต่แม้ค่าสายตายาวอาจลดลง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมองเห็นได้ดีขึ้น เพราะโรคต้อกระจกเองก็ทำให้เลนส์ตาขุ่นมัว การมองเห็นภาพอาจแย่ลงกว่าเดิมได้อยู่ดีค่ะ

สายตายาว กับ สายตายาวตามวัย ต่างกันอย่างไร ?

พอมาถึงจุดนี้ หลายคนคงสงสัยว่า

  • ทำไมสายตาสั้นอยู่แล้วแต่มีค่าสายตายาวมาเพิ่มอีก
  • คนที่สายตายาวอยู่แล้วทำไมมีค่าสายตายาวอีกแบบเพิ่มขึ้นมา
  • สายตายาว กับ สายตายาวตามวัยต่างกันอย่างไร?

หมอขออธิบายเรื่องนี้ให้ทุกคนเข้าใจกันดังนี้ค่ะ

ปัญหาสายตายาวนั้นมี สองแบบ ต่างกันตามสาเหตุที่เกิดค่ะ

สายตายาวตั้งแต่วัยรุ่น นั้นเกิดขึ้นเอง หรือเกิดจากกรรมพันธุ์ เนื่องจากขนาดของลูกตาของคนๆนั้นมีขนาดเล็กเกินไป ทำให้จุดรวมแสงของภาพไปโฟกัสเลยจอประสาทตา จึงเป็นสาเหตุของการปวดตาและมองเห็นไม่คมชัด

สายตายาวตามวัย (Presbyopia) เกิดได้กับทุกคนเมื่ออายุมากขึ้น ยิ่งเข้าใกล้วัยช่วง 40 ปี จะเริ่มมีปัญหามองระยะใกล้ๆไม่ชัด สาเหตุเนื่องจากกำลังเพ่งของเลนส์นัยน์ตาลดลงเนื่องจากเลนส์ตาสูญเสียความยืดหยุ่น และความเสื่อมของกล้ามเนื้อที่อยู่รอบเลนส์ตา จากการใช้งานมายาวนาน

สายตากลับมาดี

ซึ่งจะเห็นได้ว่าการที่สายตาจะกลับมาดีได้นั้น เป็นเพียงแค่ช่วงอายุหนึ่งเท่านั้นไม่ได้จะกลับมาดีตลอดไป และแต่ละบุคคลก็จะมีช่วงอายุที่สายตากลับมาดี ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับค่าสายตาเดิมของคนนั้นๆค่ะ

เพราะฉะนั้นหมอแนะนำว่าเราควรดูแลรักษาดวงตาให้มีค่าสายตาที่เหมาะสมตามวัย และรักษาสุขภาพของดวงตาให้อยู่กับเราได้ยาวนานดีกว่าค่ะ ซึ่งบทความนี้หมอได้นำวิธีการดูแลรักษาดวงตามาฝากดังนี้ค่ะ

สายตากลับมาดี

วิธีการดูแลรักษาดวงตา

ทีนี้เราจะมีวิธีการดูแลรักษาดวงตาของเราอย่างไรกันดี? เพื่อยืดระยะสุขภาพดวงตาของเราให้แข็งแรงยาวนานมากขึ้น หมอขอแนะนำดังนี้ค่ะ

ถนอมดวงตาด้วยการพักสายตา

ด้วยปัจจุบัน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก บางคนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เกือบทั้งวัน จ้องจอ Ipad หรือ โทรศัพท์มือถือตลอดเวลา

ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้กำลังทำร้ายดวงตาเราโดยที่เราไม่รู้ตัว โดยแสงสีฟ้าที่เกิดขึ้นจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆนั้น เมื่อเราใช้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นเวลานานๆ จะทำให้ ตาเมื่อยล้า ปวดตา แสบตา ตาพร่ามัว น้ำตาไหล

ซึ่งเกิดจากดวงตาได้รับแสงสีฟ้ามากเกินไปอย่างต่อเนื่อง และหน้าจอของอุปกรณ์เหล่านี้ แม้เราจะเห็นเป็นภาพเรียบๆ แต่จริงๆแล้วมีการกระพริบของหน้าจอเกิดขึ้นตลอดเวลา

ส่งผลให้กล้ามเนื้อดวงตาทำงานหนักมากขึ้นในการเพ่ง ทำให้เรากระพริบตาน้อยลง ซึ่งในระยะยาวอาจส่งผลต่อสุขภาพของดวงตาได้ค่ะ

ดังนั้นเราควรจะมีการพักสายตา เพื่อถนอมสายตาให้มีสุขภาพที่ดี

คุณหมอมีทริคการพักสายตาแบบง่ายๆมาฝาก คือ สูตร 20-20-20 ซึ่งไม่ใช่สูตรปุ๋ยแต่อย่างใด แต่คือการถนอมสายตา ด้วยหลักในการพักสายตาดังนี้ค่ะ

สายตากลับมาปกติ
  • พักสายตาของเราทุกๆ 20 นาที
  • มีระยะเวลาในการพักสายตา เป็นเวลา 20 วินาที
  • โดยการมองไกลๆไปที่ระยะ 20 ฟุต

ระวังปัจจัยเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อดวงตาของเรา

คนที่ใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ จะต้องดูแลรักษาความสะอาดเป็นพิเศษ โดยไม่ควรใส่ติดต่อกันนานเกินกว่า 8 ชม./ วัน เพราะอาจจะเกิดอาการตาแห้ง ซึ่งจำเป็นต้องหยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ

และที่สำคัญไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์ตอนนอนเด็ดขาด เพราะจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และการอักเสบที่ดวงตาของเรา

สรุป

จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าอย่างไรทุกๆคนก็จะต้องมีปัญหาสายตาเข้ามารบกวนการใช้ชีวิตตามธรรมชาติ แต่เราสามารถที่จะดูแลสายตาของเราให้มีค่าสายตาที่เหมาะสมตามอายุ ไม่เพิ่มขึ้นจนเร็วเกินกว่าวัย

เพื่อที่เราจะสามารถใช้งานดวงตาของเราในการมองภาพต่างๆได้อย่างคมชัด เป็นเวลานานที่สุดค่ะ

สายตากลับมาปกติ

MATTAYA CLINIC & BE MY GLASSES คลินิกแว่นตาโปรเกรสซีฟ โดยจักษุแพทย์และนักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญในการตัดเลนส์โปรเกรสซีฟ ทางเรายินดีให้คำปรึกษาค่ะ โดยคุณลูกค้าสามารถกดปุ่มด้านล่างเพื่อติดต่อเราได้ทั้ง 2 สาขาเลยค่ะ