วันนี้หมอขอแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักเลนส์โปรเกรสซีฟ NIKON PRESIO POWER เลนส์ระดับกลางที่มีจุดเด่นในเรื่องการลดภาพที่บิดเบือน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Nikon แบรนด์ดังจากญี่ปุ่น ได้ผ่านการพิสูจน์ถึงคุณภาพของเลนส์แว่นตา ที่ทำให้ผู้สวมใส่มั่นใจในเรื่องของนวัตกรรมเลนส์ที่ทันสมัยและคุณภาพที่เหนือระดับ
Nikon ได้มีการแบ่งและจัดหมวดหมู่ของเลนส์โปรเกรสซีฟไว้หลายระดับ ตั้งแต่เลนส์รุ่นโครงสร้างพื้นฐาน จนไปถึงเลนส์ระดับสูงที่มีความเฉพาะบุคคลสูงสุด ที่ให้ผู้สวมใส่ร่วมออกแบบโครงสร้างที่เหมาะสมกับตนเองค่ะ
สรุปจุดเด่นของเลนส์โปรเกรสซีฟ
NIKON รุ่น PRESIO POWER
- เป็นเลนส์รุ่นกลางของซีรี่ย์เลนส์โปรเกรสซีฟ Presio ของยี่ห้อ Nikon
-
ราคากลางๆ สามารถจับต้องได้
-
มีเทคโนโลยีพื้นฐานอยู่ในเลนส์ ทั้ง NODE Optimization , Aberration Filters, Viewfit Technology
-
สามารถลดภาพบิดเบือนได้ดี เพิ่มพื้นที่การมองเห็นใส่แล้วไม่ปวดตา
-
เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ต้องการสวมใส่เลนส์โปรเกรสซีฟคู่แรก
เลือกอ่านตามหัวข้อที่สนใจได้เลยค่ะ
ซีรี่ย์ Progressive Lens ของ Nikon
รุ่นของเลนส์โปรเกรสซีฟ Nikon มีอยู่ 2 ซีรี่ย์คือ Seemax และ Presio ซึ่งในแต่ละซีรี่ย์มีการแยกรุ่นย่อยต่างๆมากมาย
ซึ่งความแตกต่างของแต่ละรุ่นจะอยู่ที่เทคโนโลยีที่ช่วยในการมองเห็นและการใช้งานที่ใส่ลงไปในเลนส์โปรเกรสซีฟ รุ่นที่มีเทคโนโลยีที่ช่วยในการมองเห็นเยอะ มักจะเป็นรุ่นสูงๆ เช่น Seemax Ultimate ที่ถือว่าเป็นเลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นท็อปที่สุดของ Nikon ในปัจจุบัน
เลนส์โปรเกรสซีฟ NIKON PRESIO POWER
วันนี้หมอจะขอพูดถึงเลนส์รุ่นกลางๆที่อยู่ในซีรี่ย์ Presio และได้รับความนิยมจากผู้สวมใส่จำนวนไม่น้อย เนื่องจากมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในราคาที่ไม่สูงมากนักสามารถจับต้องได้ นั่นคือรุ่น PRESIO POWER นั่นเอง
ซึ่ง NIKON PRESIO POWER นับว่าเป็นรุ่นที่เหมาะสมสำหรับคนที่เริ่มมีปัญหาสายตายาว เริ่มใช้เลนส์โปรเกรสซีฟคู่แรก ที่ต้องการปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและได้ภาพที่คมชัด
เทคโนโลยี ลดภาพบิดเบือนในเลนส์รุ่น Nikon Presio Power
NODE OPTIMIZATION
เทคโนโลยีที่คำนวณค่าสายตาและพารามิเตอร์ ในการผลิตเลนส์ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด โดยเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Nikon จากประเทศญี่ปุ่น
Aberration Filters
แสงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรามองเห็นสิ่งต่างๆ เลนส์โปรเกรสซีฟของ Nikon มีจุดเด่นตรงที่สามารถควบคุมและจัดการแนวแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้เทคโนโลยี
-
Widening Filter เป็นเทคโนโลยีเพิ่มพื้นที่การใช้งานด้านข้างของเลนส์ ลดภาพบิดเบือนที่ไม่ต้องการ
-
Softening Filter Double Side Design เป็นการออกแบบเลนส์สองด้าน เพื่อลดภาพบิดเบือนด้านข้าง เพิ่มความนุ่มนวล มองสบายตายิ่งขึ้น จากการใช้เทคโนโลยีที่ควบคุมและจัดการแนวแสง ทำให้สามารถลดแสงที่บิดเบือนได้ถึง 40% ทำให้ผู้สวมใส่รับรู้ถึงการมองเห็นที่คมชัดทั่วทั้งแผ่นเลนส์
-
Flat Powerline Design ออกแบบโครงสร้างของเลนส์ ปรับสมดุลย์ค่าสายตาในแนวนอน ส่งผลให้ภาพคมชัด มองสบายตา
Viewfit Technology
ทางริษัท Nikon เอง ก็ได้มีการตระหนักถึงค่าพารามิเตอร์เมื่อเราสวมใส่แว่นอยู่บนใบหน้า โดยได้มีการนำเอาเทคโนโลยี Viewfit Technology เป็นเทคโนโลยีที่นำเอาข้อมูลของกรอบแว่นมาใช้ปรับแต่งเพื่อให้เลนส์เข้ากันกับกรอบแว่นอย่างสูงสุด
โดยใช้ข้อมูล
- ระยะห่างระหว่างกระจกตากับเลนส์แว่นตา (Vertex Distance)
- มุมเทหน้าแว่นขณะที่สวมใส่แว่นตา (Tilt Angle)
- ความโค้งหน้าแว่น (Wrap Angle)
จากการนำข้อมูลทั้งหมดนี้ไปคำนวณเพื่อออกแบบเลนส์ จะทำให้ได้เลนส์เฉพาะบุคคล โดยยังมีความคมชัดสูงสุดแม้จะเป็นกรอบแว่นใดก็ตาม
จากเทคโนโลยีดังกล่าว จึงทำให้เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่น Presio Power มีจุดเด่นในเรื่องของการจัดระดับภาพบิดเบือนทางด้านข้าง (Distortions) ให้ต่ำลงกว่าบริเวณรูม่านตา ทำให้พื้นที่การใช้งานระยะกลางกว้างขึ้น ผู้สวมใส่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว และได้ภาพที่คมชัด
สรุป
จริงอยู่ ที่เลนส์โปรเกรสซีฟ NIKON PRESIO POWER เป็นเลนส์ระดับกลางของซีรี่ย์ แต่ในเรื่องของความสามารถที่เหลือเฟือสำหรับผู้ที่เริ่มใส่เลนส์โปรเกรสซีฟครั้งแรก และ การควบคุมคุณภาพในการผลิตเลนส์ของ Nikon ซึ่งเป็นที่ไว้วางใจได้และรับรองโดยร้านแว่นตาทั่วโลก มาอย่างยาวนาน
หมอจึงอยากแนะนำว่าหากคุณลูกค้าต้องการเลนส์โปรเกรสซีฟที่ดีๆสักคู่ เลนส์รุ่นนี้เหมาะสมในการเป็นตัวเลือกหนึ่งในการตัดสินใจอย่างแน่นอนค่ะ
หากคุณลูกค้าไม่มั่นใจว่าตนเองเหมาะกับเลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นนี้หรือไม่ ทาง Mattaya Clinic และ Bemyglasses เรามีเลนส์โปรเกรสซีฟทุกรุ่นทุกยี่ห้อตามค่าสายตาจริงของคุณลูกค้าทุกๆท่านให้ใส่ทดลองใส่จริง คุณลูกค้าสามารถกดปุ่มด้านล่างเพื่อติดต่อเราได้ทั้ง 2 สาขา เลยค่ะ