เลนส์โปรเกรสซีฟแบบพรีเมียมต่างกับรุ่นปกติยังไง ?

เลนส์โปรเกรสซีฟนั้นมีหลายรุ่นและหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีระดับราคาที่แตกต่างกัน เลนส์แบบปกติ กับ เลนส์แบบพรีเมียมมีความแตกต่างยังไง? ขอเชิญอ่านบทความได้เลยค่ะ

โครงสร้างหลักของเลนส์โปรเกรสซีฟ

บนตัวเลนส์โปรเกรสซีฟจะมีการไล่ระดับค่าสายตาจากบริเวณด้านบนลงมาด้านล่างหลายร้อยค่าสายตา โครงสร้างหลักของเลนส์โปรเกรสซีฟทั่วไป ตัวเลนส์จะมีการแบ่งโซนการใช้งานออกเป็น 3 โซนหลักๆ ได้แก่

  • บริเวณด้านบนสุดของตัวเลนส์ใช้สำหรับมองระยะไกล เช่น ใช้ขับรถ หรือเดินขึ้น-ลงบันได
  • ไล่ค่าสายตาลงมาบริเวณตรงกลางของเลนส์จะเป็นส่วนที่ใช้สำหรับงานระยะกลางหรือระยะช่วงแขน เช่น ใช้มองคอมพิวเตอร์
  • และบริเวณด้านล่างสุดของตัวเลนส์จะเป็นจุดที่ใช้สำหรับมองระยะใกล้ เช่น อ่านหนังสือ เล่นโทรศัพท์มือถือ

ดังนั้นในการใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟจึงต้องมีการปรับตัวเข้าหาเลนส์และฝึกใช้งานเพื่อหาโฟกัสให้ระดับค่าสายตาบนตัวเลนส์สอดคล้องกับระยะที่เราใช้งาน โดยการใช้การกวาดตาขึ้น-ลงในแนวตั้ง จากบนลงล่างหรือล่างขึ้นบน

ข้อจำกัดของเลนส์โปรเกรสซีฟ

ข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟคงจะหนีไม่พ้น ภาพบิดเบือนทางด้านข้างของเลนส์ (Distortion) ที่ทำให้พื้นที่การใช้งานหรือมุมมองภาพนั้นถูกจำกัด หากเราเผลอไปมองภาพบิดเบือนที่เกิดขึ้นทางด้านข้างของเลนส์ อาจจะทำให้เกิดอาการปวดหัว เวียนหัว หรือมีอาการไม่สบายตา เมื่อยล้าดวงตาจากการต้องเพ่งมองหรือต้องตั้งใจจับโฟกัส 

โดยภาพบิดเบือนทางด้านข้างที่เกิดขึ้นจะขึ้นอยู่กับระดับค่าสายตาด้วย หากยิ่งมีค่าสายตาเยอะ ภาพบิดเบือนทางด้านข้างยิ่งเยอะ มุมมองการใช้งานยิ่งแคบลงอีก ดังนั้นการใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟ จึงไม่สามารถใช้การเหลือบหรือกวาดสายตาไปทางซ้ายและขวาได้ ต้องปรับพฤติกรรมเป็นการหันหน้าเพื่อมองทางด้านซ้ายและขวาแทน

เลนส์รุ่นพรีเมียมนั้นแตกต่างจากเลนส์ปกติอย่างไร ?

ในเลนส์รุ่นพรีเมียมจะมีการใส่เทคโนโลยีเข้าไปเพื่อออกแบบโครงสร้างเลนส์ให้มีความเฉพาะบุคคลมากขึ้น เพื่อทำให้ผู้สวมใส่ต้องปรับตัวเข้าหาเลนส์น้อยลง และมีการใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติ ไม่ต้องพยายามขยับหน้าหาโฟกัสเยอะเท่ากับเลนส์รุ่นปกติ 

เนื่องจากในรุ่นพรีเมียมจะมีการนำทั้งค่าสายตา ขนาดรูม่านตา ระยะของการเหลือบตาขึ้นลง ตำแหน่งแว่นที่สวมใส่ รวมถึงลักษณะของกรอบแว่นที่เลือก พารามิเตอร์ของกรอบแว่นตา ได้แก่ ความโค้ง ความเท และระยะห่างจากตาถึงหน้าแว่นมาคำนวณ เพื่อเปิดมุมมองการใช้งานให้กว้างขึ้น โดยการเกลี่ยภาพบิดเบือนทางด้านข้างของเลนส์ (Distortion) ให้น้อยลง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการกวาดตาซ้ายขวาได้มากขึ้น

ส่งผลให้อาการที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใส่เลนส์โปรเกรสซีฟ เช่น อาการปวดหัว เวียนหัว อาการเมื่อยล้าดวงตาน้อยลง และที่สำคัญยังสามารถออกแบบโครงสร้างให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ได้ด้วย ว่าเน้นใช้งานโซนไหนเป็นหลัก ทำให้เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นพรีเมียมมีลักษณะโครงสร้างเลนส์ที่ตรงกับการใช้งานสายตาของผู้สวมใส่มากที่สุด

สรุป

เนื่องจากเลนส์โปรเกรสซีฟมีความซับซ้อนของโครงสร้างมากกว่าเลนส์ชนิดอื่นๆ ดังนั้นเลนส์รุ่นระดับพรีเมียมจึงมีความใส่สบายตามากกว่า เนื่องจากเป็นเลนส์แบบเฉพาะบุคคล และอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยในการมองเห็น

แต่แม้ราคาจะเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถวัดประสิทธิภาพของตัวเลนส์โปรเกรสซีฟ แต่นั่นไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมดค่ะ เพราะนอกจากวัตถุดิบดีแล้วคนวัดสายตาและตัดจะต้องมีความเชี่ยวชาญ ถึงจะสามารถรีดเค้นประสิทธิภาพเลนส์ออกมาได้อย่างดีที่สุดค่ะ

มัทยาตัดแว่นเด็ก

หากลูกค้าสนใจตัดแว่นโปรเกรสซีฟ สามารถเข้ามาตรวจวัดสายตา และปรึกษาการใช้งานได้ที่ Mattaya Vision Center ทั้ง 2 สาขาได้เลยค่ะ